Interview

Aod NT tattoo x Adis Art Studio

วันนี้ Adis Arts ชวนมาพูดคุยกับคุณอ๊อด – ชินกรณ์ ไกรสรถึงเส้นทางกว่าจะมาเป็น “Aod NT Tattoo” ช่างสักไทยสไตล์ Japanese กับผลงานที่มีความแตกต่าง และเอกลักษณ์ฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร 

จุดเริ่มต้นการวาด

ผมไม่เคยเรียนด้านศิลปะมาก่อนเลย มีพื้นฐานจากการฝึกวาดการ์ตูนสมัยเด็กๆ เรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจคือ Dragon Ball เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจ Anatomy กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ทักษะวาดรูปได้จากการฝึกเองมากกว่าในห้องเรียน จึงได้ใช้สกิลการวาดสมัยเด็กที่ติดตัวมาใช้กับการออกแบบลายสักและพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ การ์ตูนจึงเหมือนเป็นสารตั้งต้นสำหรับผมในช่วงแรกๆ

เริ่มจากงานสักหรืองานวาดก่อน

เริ่มจากฝึกวาดภาพ landscape มาก่อน เราอยากวาดเก่งแต่ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นอาชีพ เพราะไม่ได้เรียนมาเราทำไปตามอารมณ์ ก่อนหน้านี้ทำงานเพ้นท์เล็บ ,เพ้นท์ตัวมา 5-6 ปี วันนึงมานั่งคิดกับตัวเองว่าเราทำตรงนี้มานานแล้วแต่ชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเลย มองไม่เห็นอนาคต แล้วยิ่งทำยิ่งหมดไฟไปอีก ต้องหาจุดเปลี่ยนสักทีจนเริ่มหันมาทำงานสัก ลูกพี่ลูกน้องของเรา (ช่างนิวNt) เขาทำงานสักมาก่อนเลยได้ที่ปรึกษาในช่วงแรก เรามีความคิดจะออกแบบลายสักเองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เลยเริ่มฝึกสร้างชิ้นงานด้วยตัวเองมาเรื่อย ๆเพราะรู้สึกว่างาน custom ตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่าและเราได้พัฒนาฝีมือด้วย ปีแรกตั้งเป้าว่า 3 ปีข้างหน้าต้องดีกว่านี้ให้ได้ งานเราก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ใช้ความต่อเนื่องมาตลอด 15 ปี จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังไม่หยุดฝึก “ถ้าเราวิเคราะห์ตัวเองได้ว่าเราทำอะไรได้ดี แล้วโฟกัสกับสิ่งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำได้ทุกอย่าง เลือกทำแต่สิ่งที่เข้าทางเราจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาฝีมือและเป็นผลดีกับลูกค้ามากที่สุด“

สไตล์งานสักของ Aod NT Tattoo 

ปัจจุบันทำงานสไตล์ Traditional Japanese จะมีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นยุคเก่าดั้งเดิม ซึ่งก่อนหน้านั้นทำมาหลายแนวมาก ตอนนั้นยังสนุกกับงานสไตล์อื่นด้วย เหมือนเป็นด่านที่อยากพิชิตอยากทำให้ได้ แต่การทำงานหลายๆแนวข้อเสียคือเราจะได้โจทย์จากลูกค้าแตกต่างกันไปคนละทิศคนละทาง เหมือนเราจะถูกเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาไปมา ทำให้ทิศทางการทำงานไม่นิ่ง มีผลต่อการพัฒนาเนื้องานเป็นอย่างมาก สุดท้ายแล้วจะต้องเลือกงานสไตล์เดียวเท่านั้นที่จะโฟกัสให้ชัดเจน สังเกตว่า คนที่ประสบความสำเร็จหรือช่างเก่งๆระดับโลกเค้าจะมีชุดความคิดแบบเดียวกัน คือโฟกัสการทำงานสไตล์เดียวไปเลย สร้างคาแลคเตอร์ให้ชัด ให้คนจำได้ว่านี้แหละคือเรา เลยเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องเลือก พอได้ทำมาเรื่อยๆเหมือนมันมีแรงดึงดูดนะ ด้วยความเป็นยุคเก่าสไตล์นี้จึงอยู่เหนือกาลเวลา รูปแบบงานก็ดูเรียบๆไม่เน้นมิติที่สมจริงมากนักแต่มีเสน่ห์ เน้นอารมณ์ เล่นสีคุมโทน ไม่เล่นสีหวือหว่าอย่างงานนีโอเจแปนที่เคยทำมา ผลตอบรับจากลูกค้าก็ดีมากๆส่วนใหญ่จะชอบกัน คิดว่าจะทำแนวนี้ต่อไปให้ชัดเจนและดีขึ้นไปอีก

จุดเด่น

ลูกค้าที่มาสักกับผมส่วนใหญ่จะบอกว่าชอบสีที่ผมใช้ ชอบลายเส้น งานดูสะอาดตา และช่วง4ปีมานี้ที่ผมโฟกัสกับงานชิ้นใหญ่เช่นงานบอดี้สรูตเต็มหลังหรือเต็มแขน จึงทำให้ทุกวันนี้งานในอลบั้มมีแต่งานชิ้นใหญ่ พอภาพรวมมันชัดเจน ก็เป็นผลให้กลุ่มลูกค้าที่มาสัก จะเป็นคนที่รสนิยมเดียวกันกับเรา ซึ่งข้อดีคือเรากับลูกค้าจะคุยกันง่ายในเรื่องการอออกแบบ และพอโจทย์มันเข้าทางเรา ผลงานก็จะออกมาดี

ความแตกต่างระหว่างการวาดก่อนสักและไม่ได้วาดก่อนสัก

ปัจจุบันผมพยายามออกแบบลายให้เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด เพื่อที่ลูกค้าจะได้เห็นงานภาพรวมทั้งหมดว่าเส้นเงาสีมีหน้าตาเป็นอย่างไร เป็นการสรุปแบบเสร็จตั้งแต่ก่อนการสัก ซึ่งลูกค้าชอบมากๆ จากเมื่อก่อนที่ไม่ได้ออกแบบเสร็จจบทุกขั้นตอน ก็จะมาด้นสดหรือเปลี่ยนแปลงสีที่หน้างานเลยหรือลงสีไว้คร่าวๆก่อนสักจริง สรุปการวาดแบบให้เสร็จก่อนสักดีกว่าชัดเจนกว่าแต่ข้อเสียคือจะใช้เวลามากกว่าในการออกแบบ ซึ่งก็จะเหนื่อยมากกว่าเดิมสำหรับช่าง และลูกค้าจะต้องต้องรอการออกแบบนานหน่อยนะกว่าจะเสร็จ

Step การทำงาน

จริงๆก็เรียบง่าย เริ่มจากลูกค้าเข้ามาคุย บอกสิ่งที่ลูกค้าต้องการว่าจะสักรูปอะไรตรงไหน มีการโอนค่ามัดจำในการออกแบบ ถึงคิวออกแบบก็จะให้ลูกค้าถ่ายรูปพื้นที่ที่จะสักมาให้ สรุปแบบกันอีกครั้งก่อนวาดจริง ระหว่างทางที่วาดก็จะส่งแบบให้ลูกค้าได้ดูไปด้วยตามสเตป ลูกค้าจะได้เห็นทุกขั้นตอนจนจบบนกระดาษ จากนั้นจึงนัดวันสักกัน

ผลงานที่ยากที่สุด

เป็นงานสัก portrait ศิลปินร็อคที่ลูกค้าเลือกแบบมาเพื่อเอาไปให้ศิลปินเซ็น เป็นสไตล์ที่นานทีจะได้ทำเลยไม่ค่อยถนัด ยังอยู่ในช่วงค้นหาตัวตนด้วย งานภาพเหมือนจริงอาจจะง่ายตรงที่ไม่ต้องออกแบบแต่ยากตรงที่ต้องทำให้มันเหมือนจริง แนวนี้มันยากตั้งแต่การเลือกสีแล้วว่าจะใช้เฉดไหนบ้าง การผสมสี การลงแสงเงา ต้องลงเฉดไหนก่อน ต้องเอาให้รอด เวลานั้นไม่มีใครจะช่วยเราได้จริงๆ เหมือนเด็กหัดใหม่ที่ต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ได้ ลุ้นมากๆแต่ก็ตั้งใจพยายามสุดความสามารถ เลยค้นพบว่าในความยากจะมีวิธีที่ง่ายซ่อนอยู่ แค่ต้องมองให้ออก สุดท้ายผลงานก็ออกมาเป็นที่พอใจ เหนือความคาดหมายทั้งเราและลูกค้า

ผลงานที่ชอบที่สุด

งานปลาคาร์ฟ เป็นจุดเริ่มต้นที่ของงานสักเต็มหลัง ผมได้ไปหนานหนิงงาน convention ที่จีน ได้ไปเห็นสไตล์งาน Traditional Japanese ที่สากลมากๆ อยากกลับมาทำงานแบบนี้ที่ไทย จังหวะตรงกับลูกค้าที่เขาชอบผลงานเรา เขาได้ให้โจทย์ทำงานแบบตามใจช่าง คือรูปอะไรก็ได้ที่ช่างอยากทำ ประทับใจมากๆ ลูกค้าท่านนี้มาจากจันทบุรี เราเลยดึงเอกลักษณ์ของจังหวัดนี้มาออกแบบกลายเป็นปลาคาร์ฟลายมังกร มีน้ำตกใส่ลงไป ลูกค้าเดินทางไป-กลับจันทบุรี ใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงเสร็จ

จากงานสักมาสู่ผลงานวาดได้ยังไง

เริ่มจากการดูงานช่างเก่งๆต่างชาติที่วาดลงกระดาษ เป็นการได้ย้ำสไตล์ตัวเองด้วย  มีรุ่นพี่อีกท่านแนะนำให้วาดลงกระดาษดีกว่า ช่วงแรกๆผมใช้สีสักระบายลงกระดาษ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นหมึกจีนและสีน้ำ รู้สึกใช้ดีกว่า พอได้เริ่มทำชิ้นแรกขึ้นมารู้สึกว่าขั้นตอนละเอียดมากขึ้นเยอะเลย แต่เราก็ทำมาเรื่อย ๆจนชิน สู้กับความขี้เกียจของตัวเอง ทำแบบนึกจะทำก็ทำเลยไม่ต้องคิดอะไร ถ้าเราคิดเยอะจะไม่ได้ทำ เหมือนการออกกำลังกายนั่นแหละ ส่วนใหญ่จะวาดตามออเดอร์ของลูกค้า

ฝากผลงาน

ติดตามผลงานได้ทาง Aod NT Tattoo ทั้ง facebook และ Instagram งานสไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่าถ้าเปรียบเทียบเหมือนได้ขับรถคลาสสิค ใครชอบความเก๋าคงทนต้อง Traditional Japanese

Related Posts